วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ความรู้คืออะไร ?

ตรรกวิทยาเบื้องต้น(6)


ความรู้คืออะไร ?


คำตอบ :

ความรู้ หรือ Knowledge   หมายถึง "การปรากฎของสิ่งหนึ่ง ใน สติปัญญา หรือ จิต ของมนุษย์"

ในวิกีพีเดียนิยามว่า ความรู้ (Knowledge) คือ ความเข้าใจในเรื่องบางเรื่อง หรือสิ่งบางสิ่ง ซึ่งอาจจะรวมไปถึงความสามารถในการนำสิ่งนั้นไปใช้เพื่อเป้าหมายบางประการ. 

คำอธิบาย   

1.เรารู้ว่า มนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้จักคิดหาเหตุผล มีความสามารถในการคิด เพื่อแสวงหาความรู้ เมื่อเด็กคนหนึ่งเกิดมา จิตใจและสติของเขาว่างเปล่า ปราศจากความคิดใดๆ นอกจากการกระทำตามสัญชาตญาณเช่นการดื่มน้ำนมจากอกแม่.

ต่อมาเมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาเริ่มมองเห็น ได้ยิน รับรส รับกลิ่น รับรู้การสัมผัส เราจะเห็นเด็กคนนี้ ค่อยๆสัมผัสสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวของเขา จะเห็นว่าแต่ละสัมผัส มีผลกระทบต่อเขา บางสิ่งทำให้เขาหัวเราะ บางสิ่งทำให้เขาร้องไห้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่มีสิ่งใดอยู่ในจิตของเขาเลย แล้วหลังจากนั้น เขาก็เริ่มสนใจ กับสภาวะใหม่ๆที่เข้าพึ่งได้รับรู้ เราเรียกสภาวะนั้นว่า"ความรู้" และมันคือ ความรู้จากสัมผัส ซึ่งการจะได้ความรู้นี้ ไม่ผ่านสิ่งใดนอกจากประสาทสัมผัสทั้งห้า นั่นคือ การมอง การได้ยิน การฟัง การรับกลิ่น การรับรส การสัมผัส และนั่นคือ ความรู้แรกที่มนุษยชาติได้เรียนรู้ มันคือต้นทุนของความรู้ คือ สิ่งต่อยอด ที่จะนำมนุษย์ไปสู่ความรู้ระดับถัดไป ความรู้แบบนี้ เป็นความรู้ที่มนุษย์มีร่วมกันกับ สรรพสัตว์.

2.ต่อมาเมื่อเติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง ความสามารถในการรับความรู้ของเด็กพัฒนาขึ้น เขาสามารถนึกถึงภาพของสิ่งต่างๆที่เขาสัมผัสมาก่อนนี้ และกักเก็บมันไว้ในสมองได้ 

3.ต่อมาเมื่อเติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง เด็กสามารถนำภาพที่ได้จากการสัมผัส มาเปรียบกัน เขาจะรู้ว่า สิ่งนี้ยาวกว่าอีกสิ่ง สิ่งนี้ขาวกว่าอีกสิ่ง สิ่งนี้อร่อยกว่าอีกกสิ่งหนึ่ง เป็นต้น 

4.ต่อมาเมื่อเติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง เด็กสามารถสร้างรูปร่างของสิ่งบางสิ่งขึ้นมาได้ โดยบางครั้งสิ่งที่อยู่ในความคิดของเขาอาจจะไม่มีอยู่จริงในโลกภายนอก เขาสามารถ สร้างรูปร่างของบางสิ่งที่เขาเคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นมัน และนั่นคือ การจินตนาการ เช่น การจินตนาการถึงเมืองเนรมิต การจินตนาการนี้ เกิดจาก การเห็นเมืองหลายๆเมือง บ้านหลายๆหลัง มาก่อน แล้วนำภาพเหล่านั้นมารวมกัน สร้างเป็นภาพใหม่ กลายเป็นแดนเนรมิต และนี่คือความรู้ที่เกิดจากจากการจินตนาการ 

5.ต่อมาความสามารถในการรับรู้ เริ่มพัฒนาขึ้นอีกระดับหนึ่ง เด็กสามารถทำความเข้าใจ ความหมายง่ายๆ ซึ่งบางครั้งก็ไม่ใช่วัตถุ เช่น ความรักที่มีต่อพ่อแม่,ความโกรธ,ความเสียใจ,ความกลัว ,ความสุข,ความสนุกสนาน และอื่นๆเป็นต้น ความรู้ประเภทนี้ คือ ความรู้ที่เกิดจากการคาดเดาแบบง่ายๆ 

6.ต่อมา ความสามารถในการรับรู้ เติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง ด้วยการคิดต่อเนื่องจาก สัมผัส จินตนาการ และการคาดเดา เมื่อพัฒนาขึ้น สมองของเขาสามารถแยกแยะสิ่งที่ถูกต้อง ออกจาก สิ่งที่ไม่ถูกต้อง,สามารถให้ความหมายของสิ่งๆหนึ่ง หรือ นิยามมันได้ สามารถเปรียบเทียบ และนำผลของการเปรียบเทียบมาจัดพวก หรือ จำแนกประเภทของสิ่งต่างๆ สามารถจดจำสิ่งที่รู้แล้ว สามารถสรุปผล สามารถตัดสิน และวิเคราะห์สิ่งที่ตนต้องการ 

นี่คือ "ความรู้" ที่เข้าถึงมนุษย์

ความคิดของเราทำงานอย่างไร ?

ตรรกวิทยาเบื้องต้น(5)

ความคิดของเราทำงานอย่างไร ?



เมื่อสติปัญญาต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่รู้ จะเกิด ขั้นตอนดังนี้

1.เมื่อเราเผชิญกับสิ่งที่ไม่รู้ สมองหรือ ปัญญา จะทำให้เราเข้าใจว่า มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่รู้.

2.เมื่อรู้ว่ามีปัญหา ขั้นต่อไป คือ การรู้ว่า ปัญหา/สิ่งที่ไม่รู้จัดอยู่ในประเภทไหน ในขั้นนี้ เราจะรู้ว่า ต้องใช้ความรู้ด้านไหน จึงจะเหมาะต่อการแก้ปัญหา หรือ หาคำตอบที่ไม่รู้.

3.เกิดการเคลื่อนไหวของปัญญา จากสิ่งที่ไม่รู้ ไปยังสิ่งที่รู้ ในขั้นตอนนี้ คือ การรู้ว่า สิ่งที่ไม่รู้อยู่ในประเภทใด และต้องมองหาอะไรจากสิ่งที่รู้แล้ว.

4.สติปัญญาเริ่มเคลื่อนไหว ระหว่าง สิ่งที่รู้แล้ว ในขั้นตอนนี้ สติปัญญาจะค้นหาคำตอบจากสิ่งที่รู้แล้วในจิต ถ้าหากค้นพบในขั้นตอนนี้ ปัญหาจะถูกแก้ไข สิ่งที่ไม่รู้ จะได้รับคำตอบ.

5.สติปัญญาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยเคลื่อนไหวจากสิ่งที่รู้แล้ว ไปยังสิ่งที่ไม่รู้ สิ่งที่ไม่รู้จะถูกคลี่คลาย และกลายเป็นสิ่งที่รู้แล้วอีกหนึ่งสิ่ง.

และนี่คือ ขั้นตอนการทำงานของสติปัญญา 


ประเด็นสำคัญของเนื้อหา

1.ขั้นตอนที่ 3,4,5 หรือ สามขั้นตอนหลัง เรียกว่า ความคิด ส่วนขั้นตอนที่ 1,2 เรียกว่า อรัมภบทของความคิด เพราะความคิดเกิดจากการเคลื่อนไหวในสามขั้นตอนท้าย เพราะเหตุนี้เราจึงนิยามความคิดว่า หมายถึง “การเคลื่อนไหวของสติปัญญาระหว่าง สิ่งที่รู้ กับ สิ่งที่ไม่รู้”



2.อาจมีบางคน ที่สามารถไขปัญหา หรือ ค้นพบคำตอบได้ในทันที เป็นเพราะกระบวนการทำงานของความคิด จากขั้นที่ ถึง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  และความรวดเร็วในการทำงานของความคิด คือ ลักษณะของอัจฉริยะ 

วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560

ความคิดคืออะไร ?

ตรรกวิทยา(4)


ความคิดคืออะไร ?



สมองของมนุษย์ เปรียบเหมือน โรงงาน ซึ่งแบ่งออกเป็นสามโซน โซนแรก ทำหน้าที่นำวัตถุดิบเข้ามาในโรงงาน โซนที่สอง รับหน้าที่จากโซนแรก คือ แยกส่วน และองค์ประกอบของวัตถุดิบเพื่อนำไปผลิต และโซนที่สาม ทำหน้าที่นำวัตถุดิบที่คัดกรอง แยกส่วนแล้ว มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่  โซนแรก จึงทำหน้าที่รับข้อมูล ข่าวสาร และความรู้ ซึ่งเดินทางเข้าไปในสมองของมนุษย์  และโซนที่สองทำหน้าที่ วิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น และโซนสุดท้าย คือ จะเป็นฝ่ายตัดสินใจว่า จะนำข้อมูลที่วิเคราะห์แล้วไปใช้ทำอะไรได้บ้าง นี่คือคำอธิบายง่ายๆเมื่อพูดถึงความหมายของคำว่า”ความคิด”

ความคิด หรือ การคิด (Reasoning) หมายถึง

“การเคลื่อนไหวของสติปัญญา จากสิ่งที่รู้แล้ว ไปยังสิ่งที่ไม่รู้”  หรือ “การคิดจากสิ่งที่รู้แล้ว ไปยังสิ่งที่ไม่รู้”

นิยามแบบสมบูรณ์  คือ “กากระทำของสติปัญญา โดยการใช้สิ่งที่รู้แล้วซึ่งปรากฏในสมอง หรือ จิต เพื่อค้นหาคำตอบของสิ่งที่ยังไม่รู้ หรือ ต้องการจะรู้ ที่ยังไม่ปรากฏ อยู่ในจิต หรือ สติปัญญา”

ตัวอย่างความคิด เช่น
คนเป็นสิ่งที่ต้องตาย
อาริสโตเติลเป็นคน
อาริสโตเติล เป็นสิ่งต้องตาย


ข้อมูลเพิ่มเติม

1.ความคิดในทาง ตรรกะ  หมายถึง การคิดหาเหตุผล หรือ การให้เหตุผล ด้วยเหตุนี้ ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า Reasoning แต่ในภาษาอาหรับ ความคิด,การคิด ตรงกับคำว่า ตะฟักกุร(تفكر)  หมายถึง การคิดเพื่อเขาถึงสิ่งที่ต้องการ หรือ เพื่อให้รู้สิ่งที่ประสงค์ ซึ่งตรงกับ นิยามของวิชาตรรกะเช่นกัน.

2.มีผู้นิยามความคิดมากมาย  ทว่า นิยามที่ผู้เขียนยกมา เป็นครอบคลุมที่สุด ด้วยเหตุผลที่ นิยาม ตรงกับความคิดในเชิงตรรกมากที่สุด.

3.ความคิดมีหลายประเภท เช่น จินตนาการ  (Imagination) ความคิดเชิงสร้างสรรค์(Creativity)  และความคิดเชิงตรรกะ(Reasoning) ซึ่งความคิดในแบบที่เกี่ยวข้องกับตรรกวิทยา คือ ความคิดในอย่างหลัง.




วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560

ทำไมต้องเรียนวิชาตรรกวิทยา ?

ตรรกวิทยาฉบับอ่านง่าย(3)


ทำไมต้องเรียนวิชาตรรกวิทยา ?






เพื่อให้คิดถูก เราจำเป็นต้องรู้หลักตรรกศาสตร์ บางคนอาจพูดว่า ผู้คนมากมายที่มีความรู้วิชา”ตรรกศาสตร์”  เรียนตรรกวิทยา แต่กลับมีความคิดผิดพลาดก็มีมากมาย ในทางกลับกัน คนที่ไม่ได้เรียนตรรกวิทยา แต่คิดถูกก็มีอยู่มาก แล้วจะมีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปเรียนวิชา”ตรรกศาสตร์”อีก ?

คำตอบ :
มีคนมากมายเรียนวิชาไวยากรณ์,กฎเกณฑ์ทางภาษาไทย แต่กลับพูดผิด  และในทางกลับกัน มีคนมากมายที่ไม่ได้เรียนวิชาภาษาไทย แต่กลับใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง !!

มีคนมากมายเรียนวิชาคณิตศาสตร์ แต่กลับคำนวณผิด ในทางกลับกัน มีคนมากมายไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์โดยตรง แต่กลับคำนวณได้อย่างถูกต้อง !!

การใช้เหตุผลแบบนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าหากข้อพิสูจน์ของผู้พูดถูกต้อง เป็นจริง  วิชาภาษาไทย วิชาคณิตศาสตร์ ก็ต้องไร้ประโยชน์เหมือนกัน ทั้งๆที่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้นเลย

ความจริงแล้ว เหตุผลที่คนเรียนตรรกศาสตร์ แต่กลับยังมีความคิดที่ผิดๆ หรือ เรียนกฎไวยากรณ์แต่ยังใช้ภาษาไทยอย่างไม่ถูกต้อง หรือ เรียนคณิตศาสตร์แต่กลับคำนวณผิดพลาด เป็นเพราะ

1.เขา/เธอ เรียนรู้ในศาสตร์ด้านนั้น แต่เรียนรู้อย่างผิวเผิน ความรู้ในศาสตร์นั้นไม่ได้ซึมซับเข้าสู่จิตใจของเขา ไม่ได้เข้าใจอย่างแตกฉาน

2.เขา/เธอ เรียนรู้ แต่ไม่ได้นำศาสตร์ด้านนั้นมาปฏิบัติใช้จริง

3.เขา/เธอ เรียนรู้ แต่เปรียบเทียบกับกฎเกณฑ์ที่เรียนรู้มาอย่างผิดๆ ความคิดที่ผิดพลาดจึงเกิดขึ้น
ด้วยเหตุนี้ บางครั้งคนที่เรียนตรรกวิทยาบางคน จึงมีความคิดที่ผิดพลาด



เหตุผล และประโยชน์ของการเรียนตรรกวิทยา


หลังจากไขปริศนา คำถามข้างต้นเป็นที่เรียบร้อย ลำดับถัดไปคือ การอธิบายเหตุผลที่ต้องเรียนวิชาตรรกวิทยา ผู้เขียนขออธิบายเป็นข้อๆดังนี้

1.เพื่อป้องกันการคิดผิดพลาด มนุษย์จำเป็นต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ความคิดผิดๆเกิดขึ้นในปัญญา และกฎเกณฑ์นั้นคือ “ตรรกวิทยา”

2.จริงอยู่ที่มนุษย์โดยธรรมชาติ เป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้จักการใช้เหตุผล แต่การใช้เหตุผลของมนุษย์ ไม่ได้ถูกเรียบเรียงเป็นระบบ    และเพราะเหตุนี้เอง”ตรรกวิทยา” จึงอาสาทำหน้าที่เรียบเรียงกฎเกณฑ์เหล่านั้น โดยเสนอให้มนุษย์จดจำและฝึกฝนอย่างเป็นระบบ ในฐานะของศาสตร์แห่งการใช้ความคิด  

3.ในวิชาตรรกวิทยา นอกจากเราจะได้เรียนรู้ กฎแห่งการคิดที่ถูกต้อง เรายังจะได้เรียนรู้”ตรรกะวิบัติ” หรือ “เหตุผลวิบัติ” หรือ กฎที่ทำให้ความคิดผิดพลาด อีกด้วย ซึ่งในแง่นี้ ตรรกวิทยา จะให้ประโยชน์แก่ผู้ศึกษา ไม่ให้ถูกหลอกหลงเชื่อสิ่งล่อลวง หรือ เรื่องงมงาย และไม่ให้เสียเปรียบใครได้ง่ายๆ  

4.การศึกษาตรรกศาสตร์ ทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้น โดยข้อแม้ว่า จะต้องนำกฎเกณฑ์ที่เรียนรู้มาปฏิบัติใช้ในชีวิตจริง เพราะ IQ ของมนุษย์เพิ่มได้ด้วยการฝึกสมอง และหนึ่งในการฝึกสมอง คือ การฝึกฝนใช้ความคิด ด้วยเหตุนี้การเรียนวิชาตรรกวิทยา จึงเป็นการทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้นในอีกด้านหนึ่ง ผู้ที่ใช้ตรรกวิทยา และอยู่กับศาสตร์แขนงนี้อยู่เสมอ มักมีนิสัยคิดก่อนพูด ตรึกตรองก่อนลงมือปฏิบัติ และชั่งตวงก่อนลงทุน และนั่นคือ ผลไม้แห่งปัญญา



มีเหตุผลอื่นๆอีกหลายข้อ ที่พิสูจน์ว่า การเรียนตรรกวิทยา จะให้ประโยชน์มหาศาลแก่ผู้ศึกษา ทว่า 4 ข้อนี้ ก็ถือเพียงพอ แล้วแก่การพิสูจน์ว่า ทำไมเราต้องเรียนตรรกวิทยา

วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

ใครเป็นคนคิดวิชาตรรกวิทยาและมันมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

ตรรกวิทยาฉบับอ่านง่าย(2)




ใครเป็นคนคิดวิชาตรรกวิทยาและมันมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?


คำตอบ : 

เรื่องนี้ตอบได้ 2 มุม




ในมุมของการประพันธ์วิชา และการเรียบเรียงจัดเป็นวิชา "ตรรกวิทยา" เริ่มต้นตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ โดยอาริสโตเติล(Aristotle) (384 -322 ก่อนค.ศ.) ในตอนนั้น ตามคำขอของ กษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ตรรกวิชาจะถูกขนานนามในฐานะมรดกของอเล็กซานเดอร์ แต่ก็มีอีกคำอธิบายบอกว่า อาริสโตเติล ไม่ได้เขียนวิชาตรรกศาสตร์ ขึ้นมาเอง แต่มันถูกเขียนขึ้นก่อนหน้านั้น 


ในมุมของธรรมชาติความเป็นมนุษย์ มนุษย์มีความสามารถในการใช้ความคิดอย่างถูกต้อง มันคือ ทักษะที่มนุษย์มีติดตัวอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เรียบเรียง หรือ รวบรวมเป็นบทเหมือนนวิชา "ตรรกศาสตร์" ที่เราเห็นกัน อธิบายอีกแบบหนึ่ง “กฎทางตรรก” ”กฎการใช้ความคิด”คือ  ทักษะธรรมชาติที่มีอยู่ทุกยุคทุกสมัยที่มีมนุษย์ 


สรุปคำตอบคือ ถ้าตรรกวิทยาหมายถึงทักษะการใช้ความคิดตามธรรมชาติที่ทุกคนมี  ไม่มีใครคิด และมีมาตั้งแต่มีมนุษย์ แต่ถ้าหมายถึงวิชาตรรกวิทยา ที่เรียงเป็นบท หรือ เป็นรูปเล่ม หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดชี้ว่า อาริสโตเติลเป็นคนแรกที่เรียบเรียงวิชานี้ขึ้นมาประมาณ 4 ศตวรรษก่อนคริสตกาล

ตรรกวิทยาคืออะไร ?

ตรรกวิทยาฉบับอ่านง่าย(1)

ตรรกวิทยาคืออะไร ?



คำตอบ :

นิยามสั้นๆ ตรรกวิทยา คือ ((กฎวิธีการคิดอย่างถูกต้อง))

นิยามยาวๆ ตรรกวิทยาคือ ((เครื่องมือ หรือ อุปกรณ์ ที่เป็นกฎที่จะช่วยป้องกันมนุษย์จากความผิดพลาดในการคิด))
คำอธิบายที่ชัดกว่านี้ คือ ตรรกศาสตร์ คือ วิชาที่สอนมนุษย์ให้รู้จักเรียนรู้กฎเกณฑ์ในการใช้ความคิดแบบพื้นฐานอย่างถูกต้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกแนวคิดของคนเราเป็นไปอย่างถูกต้อง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ วิชาตรรกวิทยาสอนให้รู้จักรูปแบบความคิด,ลำดับความคิดโดยเริ่มจากสิ่งที่ปรากฏในปัญญา ไปยังสิ่งที่ยังไม่ปรากฏ หรือ สิ่งที่รู้แล้ว ไปยังสิ่งที่ไม่รู้

ข้อมูลเพิ่มเติม

1.ในภาษาอังกฤษตรรกวิทยาตรงกับคำว่า Logic มาจากคำว่า Logike ในภาษากรีก หมายถึง ความคิด และคำพูด ที่คำนี้นำมาใช้เรียกวิชาตรรกศาสตร์ เพราะ ความคิด กับ คำพูด มีความสัมพันธ์กัน คำพูด คือ สิ่งที่สะท้อนมาจากความคิด

2.ในภาษาอาหรับ ตรรกวิทยา ตรงกับคำว่า มันฏิก (منطق) หมายถึง พลังทางความคิด,สติปัญญา และความสามารถในการพูด มีคำอธิบายคล้ายภาษากรีก คือ เพราะวาจาของมนุษย์ คือ สิ่งที่ถ่ายทอดจากความคิด ดังนั้น ความคิด กับ วาจา จึงมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด

3.ในภาษาไทย คำว่า ตรรกศาสตร์ มาจากการรวมคำสองคำคือ คำว่า ตรรก ที่มาจากคำว่า "ตรฺก" ภาษาสันสกฤต หมายถึง การตรึกตรอง หรือ ความคิด หรือ มาจากคำว่า ตักฺกะ พิจารณาจากกาลามสูตรสิบข้อ ส่วนคำว่า ศาสตร์ หมายถึง ระบบความรู้ รวมกันก็คือ ศาสตร์ หรือ “ระบบความรู้ ว่าด้วยการตรึกตรอง หรือ การใช้ความคิด”

ความรู้คืออะไร ?

ตรรกวิทยาเบื้องต้น(6) ความรู้คืออะไร ? คำตอบ : ความรู้   หรือ  Knowledge     หมายถึง "การปรากฎของสิ่งหนึ่ง ใน สติปัญญา หร...